Pages - Menu

Thursday, July 4, 2013

ชนกว่าง กีฬาประเพณีพื้นบ้านกับวิถีชีวิต


ชนกว่าง กีฬาประเพณีพื้นบ้านกับวิถีชีวิต



    จากวิถีชีวิตพื้นบ้านเพื่อการพักผ่อน ของนักนิยมกว่าง เริ่มจากชักชวนเพื่อนบ้านหามุมสบายของตัวเองอย่างไม่จำกัดสถานที่ นำกว่างตัวเก่งของแต่ละคนมาอวดกัน  ร่วมกับการชนกว่างเพื่อประลองของกว่าง  ซึ่งมักหนีไม่พ้นกับการพนันขันต่อเล็กๆน้อยๆ ตามวิถีชีวิตของหมู่ชายชาวชนบท  ถึงชาวเมืองในอดีต  จนกลายเป็นบ่อนเล็กบ่อนน้อย ทั้งที่มีการขออนุญาตอย่างถูกกฎหมายของสังคมในแต่ละยุคสมัย  

ในกรณีที่มีการพนันขันต่อกันสูงๆ กว่างชนแต่ละตัวได้รับการทนุถนอมเลี้ยงดูพร้อมกับการฝึกฝนอย่างเต็มความสามารถของเจ้าของแต่ละคน  และมักจะมีกลเม็ดเด็ดพรายที่จะพิชิตฝ่ายตรงข้ามให้ได้  ทำให้เจ้าของกว่างแต่ละคนต้องมีความระแวดระวังมากขึ้น  ต้องคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอย่างละเอียดทั้งขณะเปรียบกว่างและการขอตรวจสอบจากฝ่ายตรงข้าม โดยเกรงว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะทำร้ายกว่างของตน เช่น หักขาหรือเด็ดปลายตีน เป็นต้น 

เด็กๆในเมืองอาจชอบเลี้ยงสัตว์อีเล็คทรอนิค  แต่ตามโรงเรียนในชนบททางภาคเหนือคุณครูต้องห้ามนำกว่างมาโรงเรียน เพราะเด็กจะมัวแต่ท้าประลองกว่างกันจนไม่เป็นอันเรียน  อย่างไรก็ดี  การเล่นกว่างส่งผลให้เด็กมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ข้องแวะกับยาเสพติด และยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้มีความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติผ่านทางแมลง  ปัจจุบันในหลายจังหวัด เช่น เชียงราย น่าน เชียงใหม่ มีการจัดเทศการการชนกว่างประจำปี ซึ่งนอกจากมีการแข่งชนกว่างแล้ว ยังมีการประกวดกว่างสวยงาม รวมทั้งกว่างชนิดอื่น เช่น กว่าง 3 เขา กว่าง 5 เขา  จึงเป็นแนวโน้มที่น่าเชื่อว่าจะส่งผลให้เด็กๆในของเรามีความสนใจในด้านแมลงมากขึ้น อนาคตเราอาจมีนักอนุกรมวิธานด้านแมลงเพิ่มขึ้น  เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นที่มีนักอนุกรมวิธานด้านแมลงมากมายแม้จะมีแมลงน้อยกว่าเรา ทั้งชนิดและประมาณ  ชาวญี่ปุ่นนั้นคลั่งไคล้ในการศึกษาด้านแมลง โดยเฉพาะการต่อสู้ของแมลง  จนมีการนำมาสร้างเป็นเกมส์คอมพิวเตอร์ที่มีมูลค่าทางการตลาดอย่างมหาศาล

สองรวมเป็นหนึ่งกับกติกาที่ไม่เหมือนใคร



  กีฬาชนกว่าง เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความสามารถของทั้ง “คน” และ “กว่าง”  เมื่อเปรียบกว่างและตรวจดูกว่างเรียบร้อยแล้วก็จะตรวจดูคอนกว่างว่าเรียบร้อย มี กว่างแม่อีลุ้ม อยู่ประจำที่ครบถ้วนแล้ว แต่ละฝ่ายก็จะวางกว่างของตนลงบนคอน หันหน้าเข้าหากันห่างจากจุดศูนย์กลางประมาณ 1 คืบ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็จะหมุนปั่น ไม้ผั่น กับคอนให้เกิดเสียงดัง “กลิ่ง ๆ”  (เสียงที่มุมของไม้ปั่นตีกับคอน) กว่างเมื่อได้ยินเสียงประกอบกับกลิ่นกว่างแม่อีลุ้ม  ก็จะตรงไปที่กว่างตัวเมีย เมื่อพบกันเข้าก็จะเอาเขาสอดสลับเขากัน เรียกว่า"คาม" หรือเอาเขาประสานกันตางฝ่ายต่างหนีบกัน โดยไม่เพลี่ยงพล้ำ เมื่อกว่างตัวใด พยายามเบี่ยงตัวและชิงความได้เปรียบโดยสามารถใช้เขาหนีบคู่ต่อสู้เพียงฝ่ายเดียว  ผู้แข่งขันจะใช้มือหมุนคอนเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับกว่างของตัวเองตัวนั้น ซึ่งการชนกว่างนี้ นับได้ว่าเป็นการแข่งขันร่วมกันระหว่างกว่างและผู้ควบคุมกว่าง  ดังนั้นผู้บังคับกว่างชนต้องมีประสบการณ์และมีฝีมือ  พบว่าผู้บังคับกว่างชนในบ่อน ส่วนใหญ่ไม่ใช่เจ้าของกว่าง  แต่เป็นผู้ที่เจ้าของกว่างว่าจ้างมา
 


  กว่างตัวที่สอดเขาได้ดีกว่าและแรงมากกว่า ก็จะหนีบและดันคู่ชนไปข้างหน้า  ขีดเครื่องหมายปลายคอน นับเป็น 1 คาม (1 ยก)  ผู้บังคับกว่างจะปั่นไม้ผั่นและสอดไม้ผั่นดังให้หงายท้อง เพื่อให้กว่างคลายการหนีบ  แล้วนำมาชนกันใหม่ที่กลางคอน การชนกว่างจะสามารถสร้างความครึกครื้นและตระโกนเชียรกันอย่างสนุกสนานได้มากหากมีการ "แคะ" กันโดยตัวใดตัวหนึ่งสามารถใช้ปลายเขางัดคู่ต่อสู้จนตัวลอย   บางตัวสามารถหนีบคู่ต่อสู้ด้วยเขาทำให้คู่ต่อสู้เจ็บปวดได้  อาจทำให้ตัวที่ถูกหนีบถอดใจหันหลังหนีล่าถอยไปไม่ยอมประสานเขา เรียกว่า "อด" ก็จะถือว่าแพ้ แต่ถ้าเจ้าของกว่างไม่แน่ใจว่ากว่างจะแพ้จริง  เจ้าของก็สามารถจะจับกว่างมาพ่นน้ำหรือจับแกว่ง หรือให้กินน้ำอ้อย และให้กว่างนั้นดมตัวเมีย  เพื่อสร้างความคึกคะนอง หลังจากนั้นเอาตัวที่คาดว่าชนะมาไล่ อีก 3 ครั้ง ถ้ากว่างตัวนั้นถอยหนีครบ 3 ครั้งจึงจะถือว่าแพ้จริงๆ   กติกาการแข่งขัน จะกำหนด 8 คาม หรือ 12 คาม  หรือ 15 คาม แล้วแต่จะตกลงกัน  อย่างไรก็ตาม หากไม่มีทีท่าว่ากว่างตัวจะเป็นผู้ชนะ เจ้าของกว่างทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงให้เสมอกันก่อนที่จะครบกำหนดตามคามที่ตกลงกันไว้ก็ได้ เพื่อไม่ให้ กว่างของตนเองบอบช้ำ นับว่าเป็นกติกาที่ไม่เหมือนกติกาการแข่งขันใดๆ  อย่างไรก็ตามกว่างตัวที่แพ้ก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะในการแข่งชนครั้งต่อไปก็ได้  จึงพบว่า มีกว่าจำนวนไม่น้อยเลยที่ถูกเลี้ยงไว้จนหมดหรือเกือบอายุขัยของมัน

 ในการชนกว่างแต่ละครั้งมักจะมีการวางเดิมพันกันเพื่อความสนุกสนานตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ถ้าชนกว่างในบ่อนนั้นคู่ต่อสู้จะต้องไปวางเงินที่เจ้าหน้าที่ของบ่อนเพื่อความแน่นอน เจ้าของบ่อนจะเก็บค่าบ่อน จะเรียกว่าค่าคอนเปรียบได้กับค่าน้ำในไก่ชน อัตราร้อยละสิบ  ค่าเดิมพันอาจสูงถึงหลักหมื่นบาท หรือมากกว่านั้นก็ได้


No comments:

Post a Comment