Pages - Menu

Sunday, July 7, 2013

ผวา!!! "ด้วงน้ำมัน-ด้วงก้นกระดก" มีพิษอาจถึงตาย!!!


เตือน ภัยระวังด้วงน้ำมันและด้วงก้นกระดก เป็นแมลงมีพิษหากสัมผัสหรือตบตีจะถูกสารพิษทำให้เกิดอาการผื่นคันเป็นแผล พุพอง ห้ามกินเด็ดขาดเพราะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยพบด้วงมีพิษทั้ง 2 ชนิดนี้ได้ทั่วไปตลอดทั้งปี ระบุคนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็นชนิดเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวได้รับข้อความจากอีเมล์ฉบับหนึ่งที่อ้างข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กระทรวงสาธารณสุข   เตือนภัยแมลงมีพิษ ชื่อว่า "ด้วงน้ำมัน" ระบุว่า หากด้วงชนิดนี้ไต่ตามร่างกายหรือเพียงแค่สัมผัสก็จะเกิดอาการผื่นคัน   ผิวหนังเป็นแผลพุพอง  ถ้าไม่รีบรักษาแผลจะลุกลามอักเสบอย่างรวดเร็ว   เนื่องจากเป็นด้วงชนิดที่มีสารพิษอยู่ในลำตัว พบได้ตามป่าหญ้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด


นาย ทัศนัย   จีนทอง  นักวิจัยด้านแมลง  พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา  องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ  อธิบายถึงอันตรายของด้วงน้ำมันว่า  ด้วงน้ำมันเป็นแมลงปีกแข็ง  แต่เมื่อเทียบกับด้วงชนิดอื่น ด้วงน้ำมันจะมีปีกอ่อนกว่าและมีขนาดกลาง  ลักษณะที่สังเกตเห็นได้ง่ายคือ มีแถบสีเหลืองสลับดำอย่างละ 3  แถบขวางปีกคู่หน้า  และที่สำคัญคือ มีสารพิษอยู่ในลำตัว เมื่อด้วงน้ำมันถูกรบกวนจะปล่อยสารพิษออกมาเพื่อป้องกันตัวเอง ถ้าถูกผิวหนังจะเป็นตุ่มพุพองหรือรอยไหม้ได้
"แมลง ด้วงน้ำมันพบได้ทั่วไปในเมืองไทย  ช่วงเดือนธันวาคมจะออกมาเยอะมาก ส่วนแหล่งอาศัยและหากินจะพบตามต้นพืช เช่น ต้นโสน ต้นถั่วและต้นฝ้าย โดยปกติแล้วจะไม่กัดคน หากไม่ไปตบตีก็ไม่เป็นอันตราย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรรับประทาน เพราะจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เพราะเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับคนภาคเหนือที่ไปจับมาทอดกินแล้วเสียชีวิต เมื่อหลายปีก่อน" นายทัศนัยกล่าว
ด้าน  นพ.พงพันธุ์  วงศ์มณี  รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ยังไม่มีรายงานว่าด้วงน้ำมันระบาดเข้ากรุงเทพฯ ไม่มีผู้ใดนำด้วงมีพิษชนิดนี้ส่งให้เราตรวจสอบ  เนื่องจากพบได้ทั่วไปตลอดทั้งปีอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เดือนธันวาคมเท่านั้น   อย่างไรก็ตาม   นอกจากด้วงน้ำมันที่มีพิษแล้วยังมีด้วงอีกชนิดหนึ่งที่มีสารพิษเช่นเดียวกัน คือ ด้วงก้นกระดก ซึ่งคนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นด้วงน้ำมัน


สำหรับ ลักษณะด้วงก้นกระดกนั้นจะมีขนาดเล็กกว่า   มีความยาวเพียง 4-7 มิลลิเมตร บริเวณช่วงท้องยาวโผล่ออกมานอกปีกและมักจะกระดกขึ้นๆ ลงๆ   ชอบอาศัยตามกองมูลสัตว์  กองไม้ และบินเข้ามาเล่นแสงไฟในบ้านเรือน  มีสารพิษชื่อว่า  เพเดอริน ซึ่งทำให้เกิดอาการผื่นคัน ผิวหนังบวมอักเสบ หากถูกดวงตาทำให้ตาบอดได้
"ขณะที่อันตรายของด้วงน้ำมันคือ  มีสารพิษชื่อว่า  แคนทารีดิน  ที่มีฤทธิ์ต่อเลือด  กระตุ้นประสาท หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้  อาเจียน  ท้องเสีย อุจจาระร่วง ปัสสาวะเป็นเลือด และเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว  วิธีป้องกันอันตรายหากถูกสารพิษคือ  ให้รีบล้างน้ำสะอาดหรือเช็ดด้วยแอมโมเนียออกทันที   และห้ามนำด้วงทั้ง 2 ชนิดมาบริโภคเด็ดขาด" รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวเตือน.

No comments:

Post a Comment